วันเสาร์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2557

เรื่องความรู้การใช้งานของ Facebook, Twitter, Google+, Youtube, Line

เรื่องความรู้การใช้งานของ Facebook, Twitter, Google+, Youtube, Line Facebook คืออะไร Facebook เป็นอีกหนึ่งเว็บในสังคม Social Networking ที่เปิดให้ทุกๆ คนได้ร่วมเข้ามาแบ่งปันความคิดเห็นรวมถึงการเสนอ ความคิดและตัวเองให้ได้รู้จักกันในสังคมหนึ่ง ซึ่งจะอยู่ในรูปแบบออนไลน์ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการหาเพื่อนเพื่อพูดคุยและแสดงตนเองในรูปแบบหนึ่ง สามารถที่จะอับโดหลดรูปลงไป สามารถที่จะสนทนากันพร้อมทั้งหากลุ่มเป้าหมายที่เราต้องการเข้าร่วมแสดงความคิดเห็น สำหรับ Facebook นั้นได้กำเนิดโดย Mr. Mark Zuckerburg กำลังศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัย มีแนวคิดที่จะแนะนำตัวเองโดยการเขียนหนังสือแล้วทำการส่งต่อๆ กันไป จากนั้นก็มาเป็นแนวคิดให้เกิดบนโลกออนไลน์ มาเป็น Facebook อย่างที่เราได้เล่นกันอยู่ เราสามารถใช้งานได้โดยการสมัครเป็นสมาชิก ที่ http://www.facebook.com ที่มา http://www.comsimple.com/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99-facebook.html เกี่ยวกับ Twitter วันจันทร์ที่ 14 กันยายน 2009 เวลา 18:09 น. ไปไหนมาไหนก็มีแต่คนกล่าวถึง Twitter โดยเฉพาะที่มายุ่งเกี่ยวกับการเมืองที่บ้านเราทำให้มีการกล่าวถึงไปใหญ่เลย กระแสของ Twitter นั้นตามจริงมีมานานแล้ว แต่พึงจะมาดังตอนนี้ล่ะครับ ผ่านทางนักการเมืองผ่านทางดาราเอง คนดังทั้งหลายได้มาเล่นกันมากขึ้น วันนี้ผมเลยต้องไปค้าหาข้อมูลจากแหล่งมราต่างๆ มาให้อ่านกันนะครับว่าเป็นยังแล้วเล่นแบบไหน ทำอะไรได้บ้างเราไปอ่านกันเลยครับ เกี่ยวกับ Twitter ทวิตเตอร์ (Twitter) เป็นเครือข่าสังคมออนไลน์จำพวกบล็อกขนาดเล็ก หรือที่เรียกว่า Micro Blog โดยความสามารถของเค้าคือส่งข้อความได้ไม่เกิน 140 ตัวอักษร โดยวัตถุประสงค์คือให้เรารู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่นั่นเอง ไม่ว่าเรากำลังนั่งดื่มกาแฟ กินข้าว และจะเข้านอนก็สามารถที่จะเผยแพร่เหล่านี้ได้ครับ ฆรือจะใชประโยชน์ในหลายๆด้าน เช่นพูดคุยสื่อสารคนในกลุ่ม หรือมีการสั่งงาน การเรียกประชุมอะไรต่างๆ ได้ครับ และการรายงานข่าวสารต่างๆ ได้รวดเร็วทันใจถึงจะแค่ 140 ตัวอักษรก็ตาม บางทีผมจะเข้าห้องน้ำก็ยะงจะบอกผ่าน ทวิตเตอร์ เลยครับ อิอิ คำว่า Twitter นั้นต้องอ่านว่า ทวิตเตอร์ แปลว่าเสียงแหลมของนก ที่เป็นเสียงจอแจอะไรทำนองนั้นละครับ เพราะฉะนั้นก็ควรที่จะอ่านให้ถูกกันนะครับเพื่อความถูกต้อง บ้างคนจะกล่าวเป็นว่า Twister ซึ่งไม่ไช่ความหมายพายุ โปรดเข้าใจตรงกัน ทวิตเตอร์ ได้ถือกำเนิดขึ้นที่สหรัฐอเมริกา โดยบริษัท Obvious Corp เมื่อเดือนมีนาคม ค.ศ.2006 โดยคนที่สร้างขึ้นมาคือ Jack Dorey,Biz Stone และ Evan Willians อตีตเข้าเคยสร้าง Blogger เว็บ Blog แห่งแรกของโลก แต่ว่าตอนนี้ได้ถูก Google ซื้อไปเรียบร้อยแล้วครับ ถือได้ว่าพวกเข้านั้นมีความสามารถที่สร้างแล่องสื่อสารออนไลน์ได้ทั้งสองอย่างแล้วมาโด่งดังด้วย โดยที่เค้าไม่ต้องอาศัยความรู้เกี่ยวกับ HTML เลยก็สามารถที่จะทำได้ ในขนาดนี้ถึงแม้จะมีการที่เลียบแบบการใช้งานแบบ ทวิตเตอร์ กันมากแล้วแต่ยังไม่สู้ เจ้าแรกได้เลย ก็ของเค้าดีนี้ครับ ไม่เสียค่าใช้จ่ายด้วย เครื่องมือที่เราสามารถบอกสถาณะของเราให้เพื่อนทราบ 1.ส่งข้อความเป็น SMS คือเราสามารถ โพสต์ข้อความเราได้ผ่าน SMS 2.ส่งข้อความด้วยโปรแกรมแซต (IM: Instant Messeage) ปัจจุบันสามารถให้โปรแกรม Google Talk ได้ครับ 3.ส่งข้อความผ่านอินเตอร์เน็ตด้วยโทรศัพท์มือถือ 4.ด้วยการเข้าไปเขียน-ข้อความใน Twitter ของเราเองในเว็บไซต์ ที่มา http://www.comsimple.com/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99-facebook.html การเริ่มต้นใช้งาน Google+ เพจ Google+ เพจ ช่วยให้ธุรกิจ ผลิตภัณฑ์ แบรนด์ และองค์กรมีตัวตนสาธารณะเป็นที่รู้จักและจดจำได้บน Google+ Google+ เพจ ทำงานในโลกของ Google+ ในลักษณะเดียวกับเจ้าของโปรไฟล์ Google+ ทั่วไป คือสามารถ เพิ่มบุคคลลงไปยังแวดวงแก้ไขโปรไฟล์ แชร์สิ่งต่างๆ บน Google+, +1 ความคิดเห็นและรูปภาพ และ สร้างและเข้าร่วมแฮงเอาท์ แต่ไม่ได้เหมือนกันทั้งหมด เมื่อต้องการสร้าง Google+ เพจ เปิด Google+ วางเคอร์เซอร์ที่มุมบนซ้ายเพื่อเปิดเมนูหลักของ Google+ คลิก เพจ คลิกปุ่ม สร้างเพจ ที่ด้านบนขวา เลือก หมวด Google+ เพจ ที่ต้องการสร้าง คลิกปุ่ม สร้าง หากสร้างเพจสำหรับองค์กร คุณควรทราบว่า เพจอาจมีผู้จัดการได้หลายคน. คุณอาจต้องการกำหนดบุคคลเป็นผู้จัดการเพิ่มเติม เพื่อสำรองไว้ในกรณีที่จำเป็นต้องใช้บุคคลอื่นนอกเหนือจากเจ้าของในการดูแลบริหารเพจ ซึ่งหมายความว่ามีบุคคลอื่นอีกหลายคนที่สามารถดำเนินการในฐานะตัวแทนของเพจ โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องแชร์ข้อมูลบัญชีของคุณให้ทราบ นอกจากนี้ หากสร้างหน้าเว็บสำหรับองค์กรของคุณ โดยคุณไม่ต้องการเป็นเจ้าของอีก คุณสามารถ โอนสิทธิ์การเป็นเจ้าของ ให้บุคคลอื่น หลังจากสร้างเพจของตนเองแล้ว ให้ทำตามคำแนะนำเพื่อตั้งค่ารายละเอียดโปรไฟล์และแจ้งให้ผู้อื่นทราบเกี่ยวกับเพจใหม่นี้ หลังจากสร้างเสร็จ เพจทั้งหมดจะกลายเป็นเพจสาธารณะ เมื่อพร้อมเผยแพร่เพจของคุณให้บุคคลอื่นทราบ ควรตรวจสอบว่า ใช้ Google+ เป็นเพจของคุณและคลิก หน้าหลักแล้ว จากนั้นคลิก โปรโมตเพจของคุณ ภายใต้ "กระจายข่าว" ทางด้านขวาของเพจ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ การโปรโมตเพจของคุณ คุณสามารถแก้ไขข้อมูลเกือบทุกอย่างในโปรไฟล์ของเพจ รวมถึงข้อความแนะนำตัว ข้อมูลที่อยู่ติดต่อ และเว็บไซต์ หากต้องการแก้ไขโปรไฟล์เพจของคุณ ให้ดำเนินการดังนี้: ตรวจสอบว่า กำหนดให้ Google+ เป็นเพจของคุณแล้ว คลิก โปรไฟล์{e ทางด้านซ้าย เลือกส่วนที่จะแก้ไข หากสามารถแก้ไขได้จะมีลิงก์ให้แก้ไขปรากฏอยู่ คลิกปุ่ม บันทึก เมื่อแก้ไขเสร็จแล้ว ที่มา https://support.google.com/plus/answer/1710691?hl=th LINE คือแอพพลิเคชั่นที่ผสมผสานบริการ Messaging และ Voice Over IP นำมาผนวกเข้าด้วยกัน จึงทำให้เกิดเป็นแอพพลิชั่นที่สามารถแชท สร้างกลุ่ม ส่งข้อความ โพสต์รูปต่างๆ หรือจะโทรคุยกันแบบเสียงก็ได้ โดยข้อมูลทั้งหมดไม่ต้องเสียเงิน หากเราใช้งานโทรศัพท์ที่มีแพคเกจอินเทอร์เน็ตอยู่แล้ว แถมยังสามารถใช้งานร่วมกันระหว่าง iOS และ Android รวมทั้งระบบปฏิบัติการอื่น ๆ ได้อีกด้วย การทำงานของ LINE นั้น มีลักษณะคล้าย ๆ กับ WhatsApp ที่ต้องใช้เบอร์โทรศัพท์เพื่อยืนยันการใช้งาน แต่ LINE ได้เพิ่มลูกเล่นอื่นๆ เข้ามา ทำให้ LINE มีจุดเด่นที่เหนือกว่า WhatsApp มาดูคุณสมบัติเด่น ๆ ที่น่าสนใจของ LINE กัน Free Voice Calls (สนทนาด้วยเสียง ฟรี) LINE จุดเด่นอย่างหนึ่งของ LINE นั้นก็คือบริการ Free Voice Calls ที่ให้ผู้ใช้งานสามารถโทรหาผู้ที่ใช้ LINE ด้วยกัน โดยใช้งานผ่านเครือข่าย 3G และ Wi-Fi เพื่อส่งข้อมูลรูปแบบเสียง โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ Send Videos & Voice Message (ส่งข้อความแบบวิดีโอและเสียง) นอกจากการแชทด้วยการส่งข้อความแบบปกติแล้ว LINE ยังสามารถอัดภาพวิดีโอหรือเสียงแล้วส่งไปให้เพื่อน ๆ ได้อีกด้วย โดยสามารถส่งได้เป็นคลิปวิดีโอหรือเสียงในแบบสั้น ๆ ความยาวไม่กี่วินาที Stickers and Emoticons (สติกเกอร์การ์ตูนน่ารัก ๆ) LINE อีกหนึ่งความสนุกของแอพฯ แชททั่วไปที่ขาดไม่ได้ก็คืออีโมติคอนน่ารัก ๆ ที่ช่วยเพิ่มสีสันให้การแชทสนุกสนานยิ่งขึ้น และสำหรับ LINE มีทั้ง Stickers และ Emoticons รูปแบบต่าง ๆ และยังเลือกดาวน์โหลดเพิ่มเติมได้อีกด้วย ทำให้ผู้ใช้งานหลายคนติดอกติดใจกับ Stickers และ Emoticons น่ารัก ๆ ของ LINE Customizable Wallpaper (ปรับแต่งภาพวอลเปเปอร์) LINE LINE สามารถเปลี่ยน Wallpaper ในหน้าต่างแชทได้ โดยแอพฯ จะมีภาพ Wallpaper มาให้ทั้งหมด 23 แบบ และสามารถเพิ่ม Wallpaper ที่ต้องการ โดยนำรูปที่อยู่ในโทรศัพท์มือถือมาใช้งานเป็น Wallpaper ได้ Group Chat (แชทแบบกลุ่ม) LINE LINE สามารถสร้างกลุ่มเพื่อพูดคุยกันได้ หากมีก๊วนเพื่อนสนิท ต้องการความเป็นส่วนตัว อยากคุยเฉพาะกลุ่ม LINE เราก็สามารถสร้างกลุ่มเอาไว้พูดคุยได้ Timeline LINE มีความเป็นโซเชียลเน็ตเวิร์กในตัว มี Timeline ให้สามารถอัพเดทสเตตัส, โพสต์รูป, คอมเม้นท์ หรือกดไลค์ได้เหมือนกับเฟซบุ๊กเลยทีเดียว Game LINE มีเกมในเครือให้ดาวน์โหลดมาเล่นได้มากมาย ซึ่งจะใช้บัญชีของ LINE ในการเล่นที่สามารถเล่นแข่งขันกับเพื่อน ๆ ใน LINE ได้อย่างสนุกสนาน Add Friends / Contacts LINE อีกหนึ่งลูกเล่นที่ทำให้ LINE แตกต่างจาก WhatsApp นั้นก็คือการเพิ่ม Contacts ที่เลือกได้ 4 รูปแบบ 1. เพิ่ม Contacts จากรายชื่อในโทรศัพท์หากมีเพื่อนคนไหนใช้แอพฯ นี้อยู่ จะมีสัญลักษณ์ LINE แสดงให้เห็นและสามารถเพิ่มเป็นเพื่อนได้ทันที 2. QR Code สามารถสแกน QR Code ของเพื่อนเราเพื่อเพิ่มเป็นเพื่อนและสามารถสร้าง QR Code ของเราเอง เพื่อใช้สำหรับให้เพื่อน ๆ คนอื่น มาสแกน QR Code เพื่อเพิ่มเพื่อนใน LINE 3. Shake it! เขย่าโทรศัพท์มือถือ เป็นวิธีการแอดเพื่อนที่เจ๋งสุด ๆ ของ LINE ใช้ในกรณีที่ทั้งสองโทรศัพท์สองเครื่องอยู่ด้วยกัน เมื่อเขย่าเครื่องพร้อม ๆ กัน ก็สามารถเพิ่มเป็นเพื่อนกันได้ 4. Search by ID คือ เราสามารถค้นหาเพื่อนได้จาก ID (คล้าย ๆ กับ PIN ของ BB) โดยการพิมพ์ ID ของเพื่อนที่ต้องการ สรุปแล้ว LINE เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับแอพพลิเคชั่นสำหรับแชท ส่งข้อความ, เสียงและรูปภาพ ด้วยลูกเล่นของแอพฯ ที่มีเสน่ห์การใช้งานที่ทำให้ผู้ใช้ชื่นชอบ แถมทำงานได้อย่างดีเยี่ยม ยิ่งถ้าหากเราอยู่ในพื้นที่ที่อินเทอร์เน็ตครอบคลุม สามารถใช้ LINE คุยกันแทนโทรศัพท์ได้เลยทีเดียว อีกทั้งยังเป็นแอพฯ ที่แจกฟรี สามารถใช้งานได้บน iOS,Android และระบบปฏิบัติการอื่น ๆ ถ้าพร้อมแล้วมาดาวน์โหลด LINE ไปลองใช้งานกัน ขอเตือนไว้ก่อนระวังจะติดอกติดใจจนไม่อยากวางโทรศัพท์นะจะบอกให้ ทีมาhttp://men.kapook.com/view36714.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น